การสังเกตอาการเบื้องต้น ในผู้ป่วยภาวะเส้นเลือดสมองตีบ รวมถึงการดูแลอย่างต่อเนื่อง และการป้องกัน
การดูแล ผู้ป่วยภาวะเส้นเลือดสมองตีบ เป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเป็นภาวะที่เร่งด่วน และต้องการการดูแล ที่ถูกวิธีเพื่อป้องกันความเสียหายทางสมอง ที่อาจเกิดจากการขาดเลือด เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงส่วนหนึ่งของสมองได้เพียงพอ ด้านล่างนี้คือแนวทางการดูแล และ คำแนะนำที่สำคัญสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะเส้นเลือดสมองตีบ
1. การรับมือเบื้องต้น
การสังเกตอาการของ ผู้ป่วยภาวะเส้นเลือดสมองตีบ เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากการได้รับการรักษาที่รวดเร็วจะช่วยลดความรุนแรงของภาวะและเพิ่มโอกาสในการฟื้นตัวได้ การสังเกตจะเกี่ยวข้องกับการมองหาอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน ดังนี้
* อาการอัมพฤกษ์ หรืออัมพาตทันที
* มีอาการอ่อนแรงหรือชาทางด้านใดด้านหนึ่งของร่างกาย เช่น แขน ขา หรือใบหน้า โดยเฉพาะถ้ามีอาการเฉียบพลัน
* ใบหน้าเบี้ยว (Facial Droop)
* เมื่อผู้ป่วยพยายามยิ้มหรือแสดงสีหน้า จะสังเกตเห็นว่ามุมปากของข้างหนึ่งตกลง
* ความยากลำบากในการพูด หรือเข้าใจ
* พูดไม่ชัด เข้าใจคำพูดได้ยาก หรือตอบคำถามผิดจากหัวข้อที่พูดคุย
* การมองเห็นผิดปกติ
* มีการมองเห็นซ้อน (double vision) หรือสูญเสียการมองเห็นไปด้านใดด้านหนึ่งอย่างเฉียบพลัน
* เวียนหัวหรือการทรงตัวผิดปกติ
* เวียนศีรษะแบบรุนแรง สูญเสียการทรงตัวหรือมีปัญหา ในการเดินสมดุล
* ปวดศีรษะอย่างรุนแรง
* ปวดศีรษะอย่างรุนแรง และกะทันหัน โดยอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย
▪️FAST Model
วิธีที่นิยมใช้กันในการจดจำและสังเกตอาการของ ผู้ป่วยภาวะเส้นเลือดสมองตีบ คือวิธี FAST ซึ่งย่อมาจาก:
* F (Face drooping): ใบหน้าเบี้ยว
* A (Arm weakness): แขนอ่อนแรง
* S (Speech difficulty): พูดลำบาก
* T (Time to call emergency services): เวลาที่ต้องติดต่อหน่วยฉุกเฉิน
หากพบเห็นอาการดังกล่าว การติดต่อบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินทันที : โทรสายด่วน 1669 (บริการ24ชม.) เป็นสิ่งสำคัญมาก เนื่องจากการรักษาที่รวดเร็วอาจช่วยลดความเสี่ยงของความเสียหายถาวรในสมองได้อย่างมีนัยสำคัญ
2. การรักษาในโรงพยาบาล
– มีการใช้ยาละลายลิ่มเลือดหากผู้ป่วยมาถึงภายในเวลาที่ทัน (ไม่เกิน 3-4.5 ชั่วโมง)
– อาจมีการใช้วิธีการตรวจและรักษาเพิ่มเติมตามสาเหตุและความรุนแรงของอาการ การตรวจวินิจฉัยจะใช้การถ่ายภาพสมอง (CT หรือ MRI) เพื่อตรวจสอบสาเหตุ
3. การฟื้นฟูสมรรถภาพ
– การบำบัดทางกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูการเคลื่อนไหว
– การบำบัดการพูดหากมีปัญหาในการพูดหรือการกลืน
– จัดการสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย : ปรับที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ป่วย
– สนับสนุนทางร่างกายและอารมณ์ : ให้ความเข้าใจและกำลังใจแก่ผู้ป่วยในการทำกิจกรรมฟื้นฟูต่างๆ
4. การดูแลต่อเนื่อง
– การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ การออกกำลังกายที่เหมาะสม
– การควบคุมปัจจัยเสี่ยง เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และเบาหวาน
5. การปรึกษาแพทย์
– ไปพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ
– ปฏิบัติตามแผนการรักษาและคำแนะนำจากแพทย์
การดูแลผู้ป่วยเส้นเลือดสมองตีบต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างทีมแพทย์ ครอบครัว และตัวผู้ป่วยเองในการปฏิบัติตามแนวทางการรักษาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ผลดีที่สุดในการฟื้นฟูสุขภาพ และชีวิตประจำวันกลับมาใกล้เคียงปกติ
สนับสนุนการดูแลอย่างถูกต้องและถูกวิธี โดย ศูนย์ดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุ ธนรัฎ เฮลท์แคร์ เชียงใหม่ https://www.facebook.com/thanarat.healthcare?mibextid=LQQJ4d